วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การแข่งขันจักรยานเสือภูเขา

จุดลิขสิทธิ์จักรยานพับครั้งแรก

ตามข้อมูลจากเว๊ปไซค์  จักรยานพับ , ในปี ๑๘๙๓   มีการยื่นจดลิขสิทธิ์  ที่เรียกว่าจักรยานพับ ,  แต่แทนที่จะจดแยกจักรยานเป็นชิ้น   มิเชล บี. ไรอัล ส่งแผนภาพของเขาให้กับสำนักงานทะเบียนสหรัฐอเมริกา และได้รับลิขสิทธิ์ หมายเลข 518,330  วันที่ ๑๗ เดือนเมษายน ๑๘๙๔  เว๊ปไซค์ จักรยานพับ บอกว่าข้อความลิขสิทธิ์ ของเขามีข้อความเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่อ่านได้ว่า“ วัตถุประสงค์พื้นฐานของสิ่งประดิษฐ์ของข้าพเจ้า เพื่อผลิตจักรยานที่สามารถพับได้โดยง่ายและกินพื้นที่ว่างน้อยลง เมื่อไม่ได้นำไปใช้ หรือเมื่อขนส่งหรือเก็บ”

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มารู้จักจักรยานเสือภูเขากันเถอะ

จักรยานเสือภูเขา



วันนี้มีจักรยานพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น คือ เสือภูเขาหรือ MOUNTAIN BIKE เป็นจักรยานอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะ เป็นถนนธรรมดา หรือทางป่าทางเขาทุรกันดาร จึงเป็นจักรยานที่เหมาะ อย่างยิ่งสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว เสือภูเขาได้ทำให้โฉมหน้าทาง การท่องเที่ยวและคมนาคมในเมืองหลาย ๆ ประเทศ เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าจักรยานคันเล็ก ๆ จะทำได้ถึงขนาดนี้ลักษณะเฉพาะของเสือภูเขา คือ ความแข็งแกร่งของระบบโครงสร้าง การผ่อนแรงของระบบเกียร์ทดซึ่งมีมาก ถึง 24 เกียร์ การหยุดฉับพลันของระบบเบรค และความสามารถในการตะลุยทางยากลำบากของระบบล้อ ยาง และเกียร์ ทำให้การเดินทางด้วยเสือภูเขาสามารถบุกบั่นไปได้ทุกที่ เป็นการเดินทางที่แม้จะเหนื่อยหนักแต่ก็สนุกสนานการขับขี่เสือภูเขาเช่นเดียวกับจักรยานทั่วไป เพียงแต่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมในระบบที่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ได้แก่1. แฮนด์ บังคับแฮนด์ด้วย 2 มือ ให้ตรงทางอยู่เสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บังคับแฮนด์ให้ไปในทิศทางที่ถูก ต้องไว้ เพียงเท่านี้เสือภูเขาก็จะพาคุณหลบเลี่ยงจากอันตรายทุกสถานการณ์ไปได้2. เบรค เมื่อต้องการหยุด กดเบรคล้อหลังก่อนล้อหน้าเสมอ ถ้าเป็นทางลงชันควรกดเบรคแล้วปล่อย กดแล้ว ปล่อย อย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ความเร็วขึ้นสูงจนควบคุมไม่ได้3. ระบบเกียร์ทด เริ่มเคลื่อนที่ด้วยจานหน้าจานหลังตัวกลางอยู่เสมอ จากนั้นทดลองเปลี่ยนเกียร์จานหลังขึ้น หรือลง เพื่อทดสอบน้ำหนักการถีบที่เหมาะกับตนเอง ในการทดสอบจักรยานก่อนการเดินทาง ทดลอง เปลี่ยนเกียร์อยู่เสมอ เพื่อหาน้ำหนักเกียร์ที่ตัวเองถนัด จำไว้เสมอว่า ผู้ใช้จักรยานแต่ละคนจะใช้เกียร์ไม่ เหมือนกันตามแต่กำลังกายของแต่ละคน

กำเนิดจักรยาน

กำเนิดจักรยาน

จักรยานสองล้อรุ่นแรก ๆ ที่เป็นต้นแบบของจักรยานสองล้อในปัจุบันมีกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อราวปี พ.ศ. 2343 ในปี พ.ศ.2408 ได้มีการผลิตจักรยาน 2 ล้อ รุ่นหนึ่งซึ่งมีตัวล้อเป็นเหล็ก และมีขอบล้อทำด้วยไม้  กำลังเคลื่อนล้อได้มาจากแรงปั่นด้วยเท้าบนบันไดทั้งสองของรถจักรยาน เหมือนกับในรถสามล้อถีบปัจจุบัน ในช่วงต่อมาได้มีการใช้ล้อทำด้วยยาง และในราวปี พ.ศ. 2423-2433 ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางล้อหน้าได้ขยายใหญ่ขึ้นถึง 60 นิ้ว ซึ่งทำให้มันสามารถเคลื่อนที่ได้เป็นระยะทางถึง 16 ฟุต  ในการปั่นบันไดรรถจักรยานให้หมุน 1 รอบ อันมีผลให้มันสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง ทั้งในแนวราบและวิ่งลงเขาแต่สำหรับการขี่ขึ้นทางชันนั้นจะต้องออกแรงเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นการที่จุดศูนย์ถ่วงของตัวจักรยานอยู่สูงทำให้มันมีแนวโน้มที่จะพลิกคว่ำหรือเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่าย ดังนั้นในราวปี พ.ศ. 2428 จึงได้มีการผลิตจักรยานรุ่นใหม่ที่มีรูปลักษณะเหมือนจักรยานสมัยใหม่ในปัจจุบัน คือ ล้อทั้งสองมีขนาดเท่ากัน และมีเฟืองที่บันไดรถ เพื่อถ่ายทอดกำลังผ่านโซ่ไปยังล้อหลัง ทำให้เกิดลักษณะการขับขี่มั่นคงกว่าเดิม และยังให้อัตราทดกำลังด้วยการเลือกใช้เฟืองทดกำลังที่เหมาะสมสำหรับขับขี่โดยเฉพาะด้วยความเร็วต่ำแต่เบาแรงกว่าในขณะขี่ขึ้นเขาหรือทางชัน

ส่วนประกอบสำคัญของจักรยาน

    1.มือเปลี่ยนเกียร์                                        
    2.มือเบรค
    3.แฮนค์
    4.คอแฮนค์
    5.ถ้วยคอแฮนค์
    6.อาน
    7.หลักอาน
    8.ห่วงรัคหลักอาน
    9.วงล้อ
    10.ยาง
    11.ตีนผี
    12.โซ่
    13.สันจานหน้า
    14.บันได
    15.จานหน้า
    16.กะโหลก
    17.ซี่ลวด
    18.คุม
    19.ชุดเบรค
    20.โช๊ค